เทคนิคและการนำทัวร์ของมัคคุเทศก์
อาชีพไกด์หรือมัคคุเทศก์ถือเป็นอาชีพหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คนต้องกาประกอบอาชีพนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่เรียนจบการท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ จบด้านภาษา รวมถึงกลุ่มคนที่รักในการนำเที่ยวหรือการบริการ อาชีพไกด์ยังเป็นอาชีพที่มีความท้าทายและต้องรับมือกับการนำทัวร์และดูแลลูกทัวร์ให้ดีตั้งแต่เริ่งทริปจนจบทริปในแต่ละครั้ง เพื่อให้ลูกทัวร์ประทับใจในการบริการนำเที่ยว แต่ในการทางเดียวกับไกด์ต้องมีเทคนิคและการเตรียมพร้อมอย่างไรนั้น วันนี้เราจะพามารู้จักเทคนิคคร่าวๆ ในการนำเที่ยวให้ทราบกันค่ะ
➤ คุณสมบัติของมัคคุเทศก์ที่ดี
`1. มัคคุเทศก์ต้องมีการเตรียมข้อมูลของสถานที่ที่นำทัรว์เป็นอย่างดี การเตรียมข้อมูลไว้ล่วงหน้า แสดงถึงความเอาใจใส่และสามารถตอบคำถามของลูกทัวร์ได้อย่างมั่นใจ
2 มัคคุเทศก์ต้องมีหน้าที่ต้องติดต่อสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก และร้านอาการเพื่อรับรองทัวร์
3. มัคคุเทศก์ต้องสุภาพเรียบร้อย พูดจาฉะฉาน รักใจในการบริการนำเที่ยว และยิ้มแย้มเสมอ
4. รู้จักเก็บข้อมูลดีที่ ทั้งข้อมูลข่าวสาร ท่องเที่ยว ความนิยมของลูกค้า และนักท่องเที่ยว
4 คุณสมบัติเหล่านี้ถือเป็นคุณสมบัติของไกด์ที่ดีวควรมี แต่นอกเหนือจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นอีกมากมายที่สื่อถึงการเป็นมัคคุเทศก์ที่ยัง หากมีครบเพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นมัคคุเทศก์ที่สมบูรณ์แบบ
ในหัวข้อต่อไปเป็นเทคนิคการนำเที่ยวของมัคคุเทศก์ที่ทั่วโลกต้องปฏิบัติตาม
➤ เทคนิคการนำทัวร์ของมัคคุเกศท์
1. เมื่อถึงสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ไกด์ควรหาจุดรวมพลที่เป็นร่มเงาเพื่อให้ลูกทัวร์ ฟังคำชี้แจงของไกด์ก่อนที่จะเดินชมสถานที่นั้นๆ เมื่อถึงควรพูดถึงประวัติของสถานที่พอคร่าวๆ รวมถึงแจ้งกฎและข้อห้ามของสถานที่นั้นๆมรวมถึงการวัฒนธรรมของคนพื้นที่เพื่อให้นักท่องเที่ยวทราบและจะได้ปฏิยัติตามอย่างถูกต้อง
2. เริ่มนำทัวร์ตวามจุดต่างๆ ในการนำเสนอจะเน้นการอธิบายความหมาย ความเป็นมาของสถานที่หรือวัตถุเพื่อให้ลูกทัวร์ทราบถึงข้อมูล นอกขากนี้ ไกด์ต้องทราบว่าคณะลูกเป็นกลุ่มนักเรียน วัยกลางคน หรือวัยชรา เพื่อจะได้อธิบายข้อมูลให้เข้ากับลูกทัรว์ เช่น หากลูกทัวร์เป็นกลุ่มนักเรียน ไกด์ไม่ควรให้ข้อมูลเชิงลึกเพราะอาจจะทำให้ลูกทัวร์เบื่อได้ หรือลูกทัวร์เป็นวัชรา หรือคนแก่ ไกด์ควรหาจุดรวมพลที่มีโต๊ะนั่งหรือในที่ร่ม เพื่อให้ลูกทัวร์ได้พักหรืออาจจะนำเสนอข้อมูลไปด้วย เพื่อไม่ให้ลูกทัวร์รู้สึกเหนื่อย และก่อนจะย้ายไปสถานีที่อื่น ไกด์มักถามลูกทัวร์เสมอว่ามีข้อสงสัยอะไรไหม เพื่อเป็นการให้ลูกทัวร์มีส่วนร่วมมากขึ้น
3. ในการนำเที่ยวไกด์จะยืนหันหน้าเข้ากับลูกทัวร์และยืน 45 องศา และก่อนถึงสถานที่ถัดไปไกด์จะต้องหันไปมองลูกทัวร์ว่าเดิมตามทันหรือไม่ทันและหยุดยืนรอ นอกจากนั้นในการอธิบายข้อมูลไกด์จะมีการใช้น้ำเสียงและขยับร่างกาย เพื่อให้ดูน่าเบื่อ
4. แต่ละสถานที่ที่พาลูกทัวร์เดินชมความสวยงามและเรียนรูปถึงประวัติความเป็นมา ควรให้ลูกทัวร์เดิมชมด้วยตนเอง หรือให้เวลาส่วนตัวกับลูกทัวร์ และกำหนดเวลารวมถึงจุดรวมพล เพื่อที่พจะเคลื่อนไปในจุดถัดไป เป็นการวางแผงและจัดสรรเวลา
5. หลังจากจบทริป ไกด์ควรถามลูกทัวร์ถึงการท่องเที่ยวในครั้งนี้ว่ามีความสุขไหม ได้เรียนรู้อะไรบ้าง และเปลี่ยนข้อมูลกับเป็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างมัคคุเทศก์และลูกทัวร์ และตลอดการเดินทางมัคคุเทศก์ต้องดูแลเอาใส่ลูกทัวร์อย่างดี เพื่อให้ลูกทัวร์ประทับใจ ไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลต่างๆ ยังรวมถึงการบริการเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าการที่จะเป็นมัคคุเทศก์ที่ดีนั้นไม่เพียวแต่มีคุณสมบัติของมัคคุเทศก์ที่ควรมีและ มัคคุเทศก์ต้องมีไหวพริบ การปรับตัวอย่างรวดเร็วกับสถานการณ์ และสถานที่ ต้องดูแลเอาใจใส่บริการลูกทัวร์ให้เหมาะสมและเกิดความประทับใจระหว่างลูกทัวร์และไกด์ หากใครสนใจอย่าประกอบอาชีพมัคคุเทศก์สามารถฝึกคุณสมบัติมัคคุเทศก์ที่ดีหรืออาจจะลองพาครอบครัวไปเที่ยวและนำเที่ยวเพื่อเป็นฝึกฝนในตัวเอง
No comments:
Post a Comment